"ชื่อชาญ โชคชัย ครับ"
"แล้วนามสกุลหล่ะ?"
"ชื่อชาญครับ"
"แ้ล้วชื่อจริงหล่ะ?"
นี่คือคำถามที่ผมได้เจอบ่อยมากอันเนื่องมาจากชื่อของผมครับ
เพราะว่ามันสั้น ห้วน จนแทบจะเป็นชื่อเล่นอยู่แล้ว แต่ว่า
ชื่อ ชาญของผมนั้น มันก็มีที่มานะครับ
ชาญ โชคชัย ชื่อนี้มีความหมายและมีที่มาครับ
ถ้าจะพูดกันเรื่องชื่อผมนั้น คงจะต้องร่ายยาวในเรื่องประวัติในชั้นต้นตั้งแต่เกิดกันเลยทีเดียวเชียว
จะอยากรู้หรือไม่ก็ช่างคุณๆนะครับ ถ้าอยากรู้ที่มาขอชื่อ ชาญ โชคชัย ก็คงต้องอ่านฝ่าดงประวัติของผมไปก่อนละ
ผมเกิดในปี2525ครับ ได้ฟังจากแม่ว่าเป็นปีที่หนาวมากปีหนึ่ง (เรื่องนี้จะส่งผลให้ผมเป็นคนขี้หนาวด้วยหรือปล่าวนั้นไม่ทราบได้) หลังจากได้ลืมตาดูโลกที่โรงพยาบาลหัวเฉียว ซึ่งเป็นที่ที่พ่อกับแม่ทำงานอยู่ แม่เล่าว่าได้ใช้สิทธิ์พยาบาลของโรงพยาบาล คลอดฟรีหรือว่าได้ส่วนลดพิเศษ แถมได้นอนห้องเดี่ยวตามปีที่แม่ทำงานมาแล้วหลายปีนี่ละ สบายเลยครับว่างั้นเถอะ แต่ที่ไหนได้แม่เล่าสำทับตามมาด้วยว่าผมร้องแหกปากทั้งวันทั้งคืน ไม่ยอมเงียบ ราวกับว่าไม่อยากให้แม่พักอย่างนั้น(แม่ครับป๋มขอโต๊ด) แม่กับพ่อเลยต้องลี้พักเสียงร้องกลับมาอยู่บ้านกัน เป็นอันว่าได้ใช้สิทธิ์นอนฟรีอยู่ 2 คืน
เรื่องราวระหว่างกลับมาบ้าน นอนตัวแดงหัวผมหร๋อมแหร๋มจนตั้งชื่อผมนั้นผมก็จำไม่ไคร่ได้เท่าไหร่นัก ซ้ำแถมไม่ได้มีใครเล่าไว้เสียด้วย รู้เพียงแต่ว่าแรกเริ่มเดิมทีนั้น ชื่อที่ได้ลงทะเบียนแจ้งเอาไว้ในสูติบัตรนั้น ไม่ได้ใช้ชื่อชาญนะครับ แต่ว่าใช้ชื่อว่า "ต้า" ใช่ครับ เด็กชาย ต้า โชคชัย นี่แหละครับ คำว่า ต้า นั้น เป็นภาษาจีนกลางครับ อาม่าเป็นผู้ตั้งให้ แปลว่า "ใหญ่ "^^ อาม่าชอบตั้งชื่อลูกๆหลานๆเป็นภาษาจีนครับ ของผมตั้งชื่อง่ายๆ เรียกง่ายๆ เขียนง่ายๆ (ส่งผลมาถือลูกพี่ลูกน้องผม เจ้าขล่ยก็ได้ชื่อจีนมาว่า จง แปลว่ากลางครับ)
ต่อมาคาดว่าคงจะอยากที่จะตั้งชื่อลูกคนแรก หลานคนแรกเป็นชื่อไทยกระมังครับ จึงได้มีการคิดตั้งชื่อขึ้นมาโดยทั้งบ้าน ได้ลงนามข้อตกลง ว่าด้วยการตั้งชื่อไทยของเด็กชายต้าว่า
1.ต้องเป็นชื่อที่อ่านง่าย เรียกง่าย ทั่วโลก นานาชาติ โดยตั้งภาษาที่ฮิตๆกันเป็นเกณฑ์อันได้แก่ ภาษาไทย (แน่ละ) ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ
2.เมื่อมีการเรียงลำดับชื่อตามอักษรแล้วต้องอยู่อันดับต้นๆ ไม่ว่าจะเขียนด้วย ภาษาไทยหรือว่าภาษาอังกฤษ
ไม่ต้องมีถึงข้อสาม ก็รู้สึกว่าจะยากพอแล้ว ทั้งบ้านจึงร่วมกันคิดชื่อที่สามารถตั้งได้โดยไม่ผิดข้อตกลงตามที่ได้ลงนามความร่วมมือเอาไว้ครับ
กระบวนการคิดจะเป็นเช่นไร จะมีการถกเถียงกันขนาดไหนนั้น ผมก็ไม่ทราบได้ ตอนนั้นมัวแต่เอาหัวเหม่งซุกผ้าอ้อมอยู่ ไม่ได้ว่างขนาดที่จะมานั่ง(นอน)จำอะไรต่อมีอะไรหรอกนะครับ
สุดท้าย
ชื่อที่ได้รับการยอมรับอย่างเป็นเอกฉันท์ก็คือ" ชาญ " ครับ
ซึ่งแน่นอนว่า
1.สามารถ เรียก อ่าน และเขียนได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย(แน่ละ) ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ โดย อิงว่า คงจะเรียกว่า ชาง (ใช่แล้วเหมือนแจ๊คกี้ ชางนั่นแหละ) และ ชาร์ล (ใช่แล้วเหมือนชาร์ล บรอนสันนั่นแหละ)
2. ไม่ว่าจะเเขียนว่า ชาญ หรือ Charn ต่างก็มาในอันดับต้นๆเมื่อเรียกลำดับชื่อตามอักษร ส่งผลให้ผมไม่เคยได้เลขที่นักเรียน เกินอันดับที่ 5เลยครับ(ส่งงานก่อน เช็คชื่อก่อน ประจำ T-T)
นอกจากนั้น ยังเข้ากันกับนามสกุล โชคชัย อีกด้วย
จากวันนั้น สูติบัตรของผม ก็มีรอยปากกาขีดคร่อมชื่อ "ต้า" ที่กลายเป็นชื่อเล่น แล้วเขียนชื่อ"ชาญ"ลงไปแทน
จนกลายเป็น เด็กชาย ชาญ โชคชัย (ใช่ครับ ชื่อชาญ นามสกุลโชคชัย) จนทุกวันนี้ครับ